Dicksonia
เรียบเรียงโดย ดร.
ผมมีความสนใจในการเลี้ยง Tree fern เป็นอย่างมากมานานแล้ว
แต่ยังไม่เคยมี โอกาสที่จะได้สัมผัส Tree fern ที่มีลำต้นใหญ่และสูงเช่น
Dicksonia
ภาพที่1 ลักษณะของใบ Manfern ถ่ายเห็นการแผ่ใบเต็มช่วง แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์เต็มที่
Family Dicksoniaceae
วงศ์ลูกไก่ทอง
ข้อมูลจาก www.fernsiam.com
ในหน้า Taxonomy ได้อธิบายไว้ว่า
เฟินวงศ์นี้เป็นเฟินดิน ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ส่วนมากมีลำต้นตั้งตรง
ดูคล้ายไม้ยืนต้น ไม่แตกกิ่ง ลำต้นอวบอ้วนสะสมน้ำและอาหาร บางชนิดลำต้นเลื้อยทอดนอนไปกับผิวดิน
ชูยอดเหง้าและใบขึ้นมา ยอดเหง้าปกคลุมด้วยขนหรือเกล็ด สีแดง สีเหลือง
หรือน้ำตาลเข้ม มีจำนวนมาก ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องยอดอ่อน ใบมี
ทั้งชนิดก้านสั้นและก้านยาว ก้านใบบริเวณโคน ปกคลุมด้วยขนเส้นยาว
ท่อลำเลียงภายใน จัดเรียงเป็นรูปตัว U มี 2 กลุ่มอยู่ข้างแกนกลาง
ตัวใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก 2-4 ชั้น ใบย่อยสุดมีขอบหยักลึก บางชนิดใบสปอร์
ผอมเรียวและแคบ กลุ่มสปอร์เกิดที่ปลายเส้นใบย่อย อับสปอร์รูปถ้วย มีเยื่ออินดูเซียปิดหุ้มรัดรอบภายนอกและมีเยื่ออินดูเซียภายในปิดอีกชั้น
เมื่อสปอร์แก่ เยื่อภายในจะพลิกเปิดออก และเยื่อภายนอกเปิดออกตามขอบ เพื่อปล่อยสปอร์แก่ออกไป
วงศ์นี้แบ่งเป็นสกุล ได้แก่ Calochlaena,
Cibotium, Culcita, Cystodium, Dicksonia และ Thysopteris
รวม 45 ชนิด กระจายพันธุ์อยู่ในเขตร้อนและส่วนมากอยู่ทางซีกโลกใต้ของโลก
บางแห่ง เช่น Holttum 1963, not 1981 จัดให้อยู่รวมในวงศ์ Cyatheaceae (วงศ์มหาสะดำ)
นอกจากนี้ ยังมีบางแห่งย้ายสกุล Culcita ไปรวมกับในวงศ์
Thyrsopteridaceae สำหรับในไทย มีรายงานพบเพียงชนิด คือ เฟินลูกไก่ทอง Cibotium
barometz (Linn.) J. Smith
สกุล Dicksonia มีประวัติที่หลากหลายในด้านการจำแนกชนิด ซึ่งแม้แต่ผู้เขียนหนังสือทั้งหลายยังสับสนด้วยจำนวนตระกูลที่มีมากมาย
เช่น Cibotium,
Culcita หรือแม้กระทั่ง Dennstaedtia จาก Taxonomy
ของ fernsiam.com ระบุว่า สกุล Dicksonia
(L'Hritier) จัดเป็น Tree Fern หรือ กูดต้น อีกชนิดหนึ่ง
สกุลนี้ พบ 30 ชนิด บางแห่งรวมเอา Dennstaedtia punctilobula นำมารวมอยู่ในสกุลนี้ แต่ยังหาข้อยุติไม่ได้ (จำนวนโครโมโซม
พื้นฐานของ Dicksonia มี ท=65)
Dicksonia
Antarctica หรือ Tasmanian dicksonia
ลำต้นกึ่งแข็ง-กึ่งนุ่ม:
ชื่อ
แหล่งกำเนิด คุณลักษณะ คุณสมบัติพิเศษ
ชื่อ
Dicksonia มาจากนามของ James Dickson
(1738-1822) เป็นนักฟิสิคชาวสก็อตแลนด์ (Hoshizaki &
Moran 2002 p.282). Dicksonia antarctica เป็นต้น tree
fern ที่มีขนยาวแนบติดกันประกอบด้วยเซลมากมายจากด้านล่างจนถึงปลายลำต้น
ใบยาวระหว่าง 1-
ภาพที่3 Manfern ขนาดใหญ่บนเกาะ
ภาพที่ 4-5 ต้น Dicksonia antarctica ที่อาศัยอยู่ในป่า
แหล่งกำเนิด
D. Antarctica
มีแหล่งกำเนิดที่กว้างขวางจากทิศตัวนออกเฉียงใต้ของรัฐ
D. Antarctica เจริญเติบโตงอกงามในพื้นที่มีการกรองแสง
มีการระบายน้ำที่สะดวก อย่างไร
ก็ตาม species นี้สามารถยืนอยู่ได้ในพื้นที่แห้งแล้งและมีชีวิตรอดได้ในสภาพที่แห้งแล้งด้วย
D. Antarctica ปลูกง่าย สิ่งสำคัญที่สุดคือขอให้มีความชื้นและได้รับสารอาหาร
มันเป็น species ที่มีคุณค่าในสวนอย่างยิ่ง
เนื่องจากสามารถเป็นผู้คุ้มกันเฟินอื่นๆ กล้วยไม้
และยังสามารถเป็นร่มเงาให้ไม้อีกหลายชนิด
ผลประโยชน์อีกประการคือสามารถปลูกได้ทั้งในและนอกอาคาร
แหล่งจำหน่ายเฟินส่วนมากจะมี Dicksonia จำหน่ายเป็นจำนวนมาก
วิธีการตัดเฟินจากป่าคือ เขาจะตัดลำต้นเสมอกับพื้นดินและตัดใบออก
ลำต้นจะปลูกลึกลงไปในดินประมาณ
คุณลักษณะ
(Characteristic)
Dicksonia antarctica มีลำต้นสีน้ำตาลเข้ม
ใบหยาบและแข็ง อากาศเย็นจัดจะทำลายและฆ่าใบ แต่ลำต้นไม่เสียหาย จากรายงานของ Nursery ใน
ภาพที่ 7 Dicksonia Antarctica เมื่อปลูกภายนอกและอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวที่ปกคลุมด้วยหิมะ
Dicksonia เป็น tree fern
ขนาดใหญ่ด้วยลำต้นสูงประมาณ
ภาพที่ 8 กลุ่ม
Manfern
ในป่าบนเกาะ
ถิ่นที่อยู่อาศัย
(Habitat)
ถิ่นที่อยู่อาศัยของเฟินชนิดนี้คือ ที่ชื้น
เปียก แฉะ มีการปกคลุมจากต้นไม้อื่นในป่าและร่องน้ำที่ชื้น
และบางโอกาสอาจจะปรากฏบนที่สูงในป่าหมอก Dicksonia
ภาพที่
9 Manfern
ที่ขึ้นอยู่ตามร่องน้ำชื้น
การเพาะปลูก
(Cultivation)
เนื่องจากมีความเหมาะสมในการจัดสวน
และจัดภูมิทัศน์ เฟินชนิดนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง
ในฐานะที่เป็นเฟินประดับ มันสามารถคงอยู่ได้ในอุณหภูมิ -5
องศาเซลเซียสในพื้นที่นอกอาคารในที่ไม่หนาวจัดมากนัก ในสหราชอาณาจักรอังกฤษสถานที่ซึ่งเฟินสามารถเติบโตได้เองในสวนของชาว Cornish ใบเก่าที่มีอายุมากหักตัวพับลงมาหุ้มลำต้นเป็นการป้องกันอากาศเย็นและช่วยรักษาความชื้น
จึงเป็นข้อแนะนำให้เก็บไว้ระหว่างอากาศหนาวจัด
การขยายพันธ์
(Propagation)
สปอร์สามารถเพาะได้ทุกโอกาสในโรงเรือนที่อากาศอบอุ่น
โดยการเพาะในกล่องพลาสติคเพื่อเก็บความชื้น วางไว้ในตำแหน่งที่ถูกแสงอ่อน
เพาะตัวขึ้นในระหว่าง 1- 3เดือน ที่ระดับ 20 องศา ย้ายสปอร์ที่ใหญ่เพียงพอและปลูกในกระถางอีก
2 ปีลำต้นจะแข็งแรง สปอร์สามารถรักษาไว้ได้ 10 ปี (http://www.letsgogardening.co.uk/Information/EG/plants/Dicksonia.htm) สำหรับในป่าแล้ว
เฟินชนิดนี้ทนต่อไฟป่า มันแตกใบใหม่ได้ในช่วงต่อมา
อัตราส่วนการเจริญเติบโตอยู่ระหว่าง 3.5- 5 เซ็นติเมตรต่อปี ดังนั้น หากต้นเฟินมีความสูงประมาณ
การเก็บเกี่ยวเฟินจากป่าในทิศตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย
การเก็บเกี่ยวหรือตัดต้น
Tree fern เพื่อการค้าในทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย จากจำนวนที่มี 5 ชนิดที่ปลูกและเติบโตดี
มีเพียง 2 species เท่านั้นที่มีการเก็บเกี่ยวเพื่อเป็นการค้าอย่างต่อเนื่อง
คือ Dicksonia antarctica คนในท้องถิ่นเรียกว่า the
Soft Tree fern หรือ Manfern อีกชนิดคือ Todea
barbara, หรือ the Austral King fern จากเฟินทั้งสองชนิดนี้
มีเพียง Manfern เท่านั้นที่สามารถขยายการเพาะปลูกได้ดีที่สุด
เป็นที่นิยมนำไปเป็นไม้ประดับของร้านค้าต้นไม้ (Nursery) ในฐานะที่มีการกระจายตัวอยู่ทั่วไปในทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียนั้น
เฟินชนิดนี้พบได้ตั้งแต่ระดับน้ำทะเลถึงที่ระดับความสูง
ภาพที่ 10 Manfern กับบุรุษผู้รับสัมปทานบนเกาะTasmania
ไม่เป็นการแปลกเลยที่บนเกาะ Tasmania การค้า
Manfern ที่ยังมีอยู่ จะมีความเจริญรุ่งเรื่องมากกว่าเมื่อเทียบกับกับร้านค้าต้นไม้ในแผ่นดินใหญ่
(คนในTasmania จะเรียกออสเตรเลียบนแผ่นดินใหญ่ว่า Mainland
Australia) พิจารณาได้จากพัฒนาการของร้านค้าต้นไม้ในท้องถิ่นที่ปรับตัวเองขึ้นจนเป็นการค้าที่ส่งออกไปทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ในปี 1980 ได้มีการห้ามเก็บเกี่ยวเฟินไม่ว่าในพื้นที่ของรัฐหรือเอกชน
ทั้งนี้เพราะความน่าเป็นห่วง (Forestry Commission Tasmania 1989) ด้วยเหตุที่ Dicksonia antarctica เป็นเฟินที่มีอัตรการเติบโตเพียง
30 เซ็นตเมตรต่อ 10 ปี และสามารถผลิตสปอร์ได้เมื่อมีอายุประมาณ 23 ปี
ทำให้การเก็บเกี่ยวที่มากเกินไปมีผลกระทบต่อบทบาทของระบบนิเวศในฐานะเป็นรากฐานแห่งการเติบโตของเฟินอื่นๆที่มีความสำคัญในการรักษาความหลากหลายในป่านั่นเอง
ภาพที่
11 แหล่งสัมปทานในป่า บนเกาะ
การบริหารจัดการ Manfern บนเกาะ Tasmania
จากแผนการบริหารของกรมป่าไม้ของTasmania ที่ได้บรรจุไว้
และจากระบบการให้ใบอนุญาตในการปฎิบัติของรัฐอื่นๆ โควตา Manfern จำนวน 500,000 ต้นต่อปีได้ถูกเก็บเกี่ยวจัดการการจัดการในTasmania อาทิเช่น ห้ามการเก็บเกี่ยวจากพื้นที่ๆมีเฟินอาศัยน้อยกว่า 100 ต้น
ต่อเฮคแตร์ (2.5 ไร่เท่ากับ 1 เฮคแตร์ ) ห้ามเก็บเกี่ยวหรือตัดจากริมลำน้ำ
และการตัดเฟินจะต้องปฎิบัติการภายใต้พื้นฐานของการตัดแบบกระจายตัว (thinning
operation) ซึ่งลำต้นจะต้องถูกนำออกไปทั้งหมด (Neyland,
1988) รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนนี้คือ จะต้องไม่มี manfern ถูกตัดยกเว้นมีขนาดที่เท่ากันยังคงเหลืออยู่ในระยะ
ภาพที่ 12 หลังการตัดลำต้น
และใบ จึงขนถ่ายไว้บนรถบรรทุก เพื่อนำไปยัง Nursery หรือ ท่าเรือ
เพื่อบรรจุใส่ตู้Container ส่งออกนานาชาติ
ภาพที่ 13 การจัดเรียงต้นเฟินในตู้
Container
จะวางนอนโดยให้ต้นใหญ่อยู่ด้านล่าง ซ้อนสูงขึ้นมาโดยต้นขนาดเล็กลง
ในซอกเล็กใช้ต้นเล็กแทรกเพื่อไม่ให้มีช่องว่าง ส่วนใหญ่ เมื่อส่งออกต่างประเทศ จะขนส่งส่งทางเรือซึ่งใช้เวลาเป็นแรมเดือนในการเดินทาง
ดังนั้น จึงนิยมที่จะบรรจุเฟินอยู่ในContainer ที่มีเครื่องทำความเย็นเพื่อรักษาสภาพของต้นเฟินให้สด
Dicksonia
Antarctica- Tasmania dicksonia ความงามอายุ 400 ปี
บางที Tasmanian dicksonia อาจจะเป็นเฟินยอดนิยมที่สุดและเป็นเฟินที่มีการรอดชีวิตได้ดีที่สุดในตระกูลเฟินทั้งหลาย
เนื่องจากเป็น
tree fern ที่ปลูกง่าย มีความสามารถเอาตัวรอดได้ดี จนมีอายุมากกว่า
400 ปี จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้อย่างง่ายๆว่าทำใมถึงเป็นเฟินยอดนิยม
ทั้งนี้เพราะว่า เฟินชนิดนี้ปลูกได้ทุกแห่งและเกือบทุกสภาพ
ชาวจีนรู้จักการนำเปลือกของDicksonia ลอกออกเป็นแผ่นนำมาเป็นยาสำหรับหยุดการไหลของเลือด
สิ่งที่น่าประหลาดที่พิเศษสุดเกี่ยวกับลักษณะสำคัญของ Tasmanian dicksonia
คือ ลำต้น มันสามารถตัดช่วงไหนก็ได้ในความยาวของลำต้นเหนือผิวดินและเฟินอัศจรรย์ต้นนี้สามารถนำไปปลูกใหม่ได้
และรากใหม่จะงอก ตอไม้เดิมที่ถูกตัดแล้วจะไม่สามารถผลิตต้นใหม่ได้
ตายไปตามธรรมชาติ
ภาพที่ 14
แสดงให้เห็นการตัด Manfern ในป่า ตำแหน่งที่ตัดจะสูงจากระดับดินประมาณ
Tasmanian dicksonia สามารถโตได้สูงสุดถึง
ภาพที่ 15 Manfern ขนาดยักษ์ที่น่าจะใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็น ลำเลียงเข้าสู่ตู้ Container
เพื่อเดินทางไปยังที่หมายต่อไป
แนวคิดการออกแบบ
(Design
ideas)
การออกแบบให้ Tree fern มีความเหมาะสมน่าจะจัดให้อยู่ในสวนที่มีผนังสูงปิดล้อมรอบ
หรือช่วงสูงโล่งภายในอาคาร (atriums)
หรือพื้นที่ภายในกรอบที่อยู่กลางอาคาร (courtyards) จัดตำแหน่งวางให้
tree fern ตั้งตรงหรือเฉียงหรือให้ตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางของพื้นที่เดี่ยวๆ
ให้มีความสวยงามมากๆควรจะจัดให้อยู่เป็นกลุ่มก้อน
ซึ่งจะทำให้เมหือนคลายความร้อนลงได้ ให้ห่างจากความร้อนหรือปะทะกับลมโดยตรง
(http://www.monrovia.com)
ภาพที่ 16 การใช้ Dicksonia Antarctica ตกแต่งพื้นที่ว่างระหว่างอาคารที่ล้อมรอบ
มีทางเดินคดเคี้ยวไปมา เป็นการจัดภูมทัศน์โดยใช้ต้นไม้เพียงชนิดเดียว
เพื่อเน้นความงามเป็นกลุ่มก้อน โดยไม่ต้องมีไม้อื่นใดผสมเลย
ภาพที่ 17 มุมมองที่แตกต่างในพื้นที่เดียวกัน
ภาพที่ 18 การนำDicksonia Antarctica ไปตกแต่งสวนภายนอกโดยผสมกับต้นไม้และเครื่องประดับอื่นๆ
เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูหลากหลาย โดยอาศัยความสูงของต้นใหญ่เป็นจุดเด่นของสายตา
แนวคิดในการจัดสวน tree fern ที่ Fiona
Hall's fern garden โดย Harijs Piekains ได้ให้คำจำกัดความว่า
การจัดสวนที่ Fiona Hall ที่เป็นอยู่มีความพิเศษมาก
เนื่องจากมีความสัมพันธ์ของร่างกายกับโลกธรรมชาติ
การใช้พื้นที่ของโลกผ่านสถาปัตยกรรมและสวนคือประวัติการเชื่อมโยงระหว่างที่มนุษย์กับโลกล้อมรอบที่ระดับพื้นฐานที่สุด
(Rebecca Corbell, 'A discussion with Fiona Hall',, artonview,
summer 199798 )
ภาพที่ 19-20
สนามบิน Shangi
ที่ประเทศ
ราคาจำหน่ายในตลาดโลก
เนื่องจาก Dicksonia มีการสั่งซื้อจากออสเตรเลียไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆทั่วโลก
ดังนั้น ราคาขายในแต่ละแห่งจึงไม่เท่ากัน จาก website แต่ละแห่งได้เสนอราคาขายตามตารางดังนี้
ขนาด |
ราคาขาย |
- |
|
|
|
|
mulu.co.uk |
- |
abbotsbur |
urbanjun |
mailorde |
1ฟุต
|
|
|
|
|
|
|
50
|
110
ยูโร |
|
|
|
|
75
|
160 |
|
|
120
ป./เมตร |
|
100
|
|
|
|
|
|
125
|
190 |
|
|
|
|
150
|
|
|
|
|
|
175
|
|
|
|
|
|
200
|
450 |
|
192ปอนด์ |
|
|
250
|
540 |
|
|
|
|
300 |
|
|
|
|
ชื่อ
website ของผู้ขายที่สามารถติดต่อได้
http://www.duchyofcornwallnursery.co.uk
http://www.abbotsburyplantsales.co.uk
http://www.mailorderplants4me.com £120.00
หากสังเกตราคาขายของแต่ละประเทศ
จะมีความแตกต่างกันไปบ้าง ราคาที่เสนอขายไม่เท่ากัน
ผู้นำเข้าส่วนใหญ่อยู่ในประเทศแถบยุโรปมากกว่าทางอเมริกา
ผู้นำเข้าในประเทศแถบเอเชียไม่มี Website ระบุไว้ จึงไม่สามารถนำราคามาเปรียบเทียบได้
หากดูจากการนำมาปลูกไว้ที่สนามบินสิงคโปร์แล้ว
สิงคโปร์น่าจะเป็นประเทศแรกๆในแถบอาเซียน ที่นำเข้ามาเพื่อการตกแต่งสถานที่
ซึ่งทำให้ Dicksonia Tasmanian เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมากขึ้นไปอีก
แรงบันดาลใจในการนำเข้า
Tasmanian
dicksonia
ผมมีความหลงใหลในการเลี้ยงเฟินมานานกว่า 10 ปี
โดยเริ่มต้นรักเฟินก้านดำเปรู และนำมาปลูกที่บ้านสวนสันทรายพร้อมขยายตัวอีกมากมาย
จากนั้นก็ได้หลงไหล Platycerium
holttumii ซึ่งเป็นสายพันธ์ที่หาง่ายในเชียงใหม่ ขณะเดียวกันก็รักที่จะมีTree
fern จึงได้ Cyathea หรือมหาสะดำ
มาเลี้ยงไว้ในจำนวนที่พอสมควร แต่ เมื่อเข้าสู่วงการเลี้ยงเฟินอย่างจริงจังในปี
2004 ได้ท่องเข้าไปในโลกของเว็บไซท์ ได้พบกับ Tasmanian dicksonia ในภาพถ่ายที่แสดงไว้ จึงได้เห็นความอัศจรรย์ของเฟินชนิดนี้
ที่มีลำต้นใหญ่และโตขึ้นอย่างสมบูรณ์ในป่าทึบ ผมจึงเริ่มต้นติดต่อ e-mail เพื่อหาทางที่นำเฟินชนิดนี้มาเลี้ยงให้ได้
แต่เมื่อได้รับคำตอบว่าจะต้องสั่งซื้อครั้งละ 1 ตู้คอนเทนเนอร์
ผมจึงต้องระงับกิเลสของตนเองไว้แค่นั้น จนกระทั่งเมื่อ 1ปีเศษที่ผ่านมา ชาวTasmanian
ซึ่งมีภรรยาเป็นชาวเชียงใหม่ เป็นผู้ที่ดั้นด้นเพื่อจะค้นหาตัวผมให้พบให้จงได้
ได้ติดต่อเข้ามาทาง
e-mail ว่าตนเองอยู่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ผมจึงให้หมายเลขโทรศัพท์ของผมไว้ หลังจากนั้น เราจึงได้พบกันที่บ้านสวนสันทราย
เมื่อพบกันเขาก็นำสำเนา e-mail ของผมมาแสดงให้ผมดู อธิบายว่า
ผู้ได้สัมปทานตัด Tasmanian dicksonia ให้ติดต่อผมเพื่อที่จะได้เจรจาความกัน
แต่ไม่รู้ที่อยู่ ไม่สามารถติดต่อกันได้เป็นเวลา 6 เดือนแล้ว ดังนั้น
เมื่อได้พบสนทนากันจึงเริ่มมีความสนิทสนมเป็นลำดับ หลังจากที่เขากลับไปยังเกาะ Tasmania
แล้วเราก็ยังคงมีการติดต่อผ่านโทรศัพท์บ้าง e-mail บ้าง เขาได้ส่ง Platycerium ซึ่งผมขอให้เป็น
P. superbum แต่กลับได้ P.hillii
มาแทน หลังจากนั้น เมื่อ วันที่ 27 กันยายน 2548 เขาได้ส่ง Tasmanian
dicksonia ทางเครื่องบิน 1 ต้น สูงประมาณ
จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2549 เขาได้โทรศัพท์มาจาก
Tasmania ให้ผมโอนเงินไป เพราะได้เฟินแน่นอนแล้ว จึงต้องเริ่มกระบวนการส่งออก
โดยผ่านท่าเรือ Davenport เมืองท่าสำคัญของเกาะTasmania
เฟินใช้เวลาล่องลอยอยู่ในมหาสมุทรประมาณ 20
กว่าวันจึงมาถึงท่าเรือคลองเตยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2549
เมื่อทำธุรกรรมทางภาษีนำเข้าเสร็จจึงนำตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกใส่รถเทลเลอร์เดินทางขึ้นไปเชียงใหม่
ถึงเชียงใหม่วันที่ 4 มีนาคม 2549 เวลา 15.00 น.
รวมเวลาที่เฟินอยู่ในตู้เย็นคอนเทนเนอร์ ประมาณ 1 เดือนเศษ น้ำหนักต้นเฟินรวมทั้งหมดประมาณ
11 ตัน มีจำนวน 199 ต้น ความสูงเฉลี่ย
จากนี้ไปมีหน้าที่ประจำที่จะต้องทำ คือ
1.
รดน้ำให้ชุ่มตลอด
2.
คอยสังเกตอาการและปัญหา
3.
สังเกตและบันทึกภาพความเจริญเติบโต ดูใบใหม่งอก
การนำเข้าที่ใช้เวลายาวนานกว่า 1ปี มีเจตนารมณ์หลักใน
คือ ผมต้องการให้เฟินชนิดนี้ปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนทั่วไป ดังนั้น จึงตั้งใจจะปลูกเฟินนี้ในบ้านสวยสันทรายให้กลายเป็นสวรรค์ของtree fern หลังจากนั้น
จะติดต่อกับเจ้าของสถานที่ ที่มีสาธารณชนเข้าไปใช้สอย เช่น สวนพฤกษศาสตร์ สนามบิน รีสอร์ทหรือโรงแรม
เป็นต้น
ภาพการลำเลียงต้นเฟินจากรถเทเลอร์เข้าสู้บ้านสวนสันทราย
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2549
ภาพของต้นเฟินภายหลังจัดวางและดูแลเป็นเวลา
2 สัปดาห์ เฟินเริ่มแตกใบใหม่
ขณะนี้ ต้นเฟินทั้งหมดได้รับน้ำเช้ากลางวันเย็น สภาพอากาศภายในสวนช่วงเช้า เย็น สบาย
ช่วงบ่ายค่อยข้างอบอ้าวอุณหภูมิประมาณ 36 องศา ช่วงค่ำจนถึงสว่างอากาศเย็นสบาย
ความชื้นที่ต้นเฟินได้รับมาจากการให้น้ำโดยตรงด้านบนสุดตลอดจนทั่วลำต้น ประกอบกับด้านล่างที่เป็นหญ้าและดินช่วยให้เก็บความชื้นได้
ต้นเฟินทั้งหลายจึงทยอยแตกใบใหม่
ท่านที่สนใจและมีความเห็นเพิ่มเติมกรุณาติดต่อได้ที่
niwattan@yahoo.com หรือ
โทรศัพท์หมายเลข 01-595 8410
ดร.นิวัตร ตันตยานุสรณ์
22 มีนาคม 2549
References:
Large
& Braggins (2004) Tree Ferns Timber Press Inc.
Hoshizaki&Moran
(2002) Fern Growers Manua,l Revised and Expanded Edition, Timber Press
C.H. Chaffeys Australian Ferns growing them successfully
Flora Australia volume 48
Wrigley, J.W. and Fagg, M. (1996) Australian Native Plants 4th
ed, New Holland - Reed Publishers, Sydney.
http://www.angelfire.com/wa/margate/antarctica.html
http://www.letsgogardening.co.uk/Information/EG/plants/Dicksonia.htm
http://www.deh.gov.au/ (commercial export of ferns)
http://www.nga.gov.au/sculpturegarden/fernGarden.htm
http://sres.anu.edu.au/associated/fpt/nwfp/ferns/ferns.html
http://www.tropicalcentre.com/boomvarens/dicksoniaantarctica/dicksoniaantarctica.htm