|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เมื่อคืนผมทรมานกับอาการปวดหัวจนนอนไม่เป็นสุข มีความรู้สึกว่าอยากกลับบ้านซะจริงๆ แต่ก็ต้องตื่นกันแต่เช้าเพราะไหนๆ ก็มากันแล้ว และก็มีที่ต้องแวะกันอีกมากมาย...น้ำตกแรกในวันนี้ที่เราแวะกันชื่อว่า"น้ำตกขนิม" ระยะทางจากถนนหลวงแค่ 800 ม. เอง น้ำตกเป็นหน้าผากว้างสัก 10 เมตร สูง 20 เมตร มีน้ำไหลรินไม่มากนัก ตะกอนของน้ำที่นี่สีน้ำตาลเหมือนสนิม ผมเดาเอาว่าเดิมคงจะชื่อน้ำตกสนิม แต่คงเรียกเพี้ยนกันมาเป็นขนิม ผิด-ถูกอย่างไรไม่ทราบนะครับ ....จัดการให้เจ้าสามตัวกินอาหารเช้าผมก็ เดินดูเฟินแถวๆ นั้น พบ ลิเภา พันอยู่ที่ต้นไม้เล็ก ๆเป็นเถาสวยงาม ส่วนเฟิน อื่นๆ ผมไม่พบที่บริเวณเลย... |
|
ระหว่างทางที่ขับรถในช่วง นี้ เฟินกระแตไต่ไม ้ที่อยู่ริมทางหลวง ผมสังเกตเห็นว่ามันใหญ่มากๆ กะคร่าวๆ ด้วยสายตาใบหุ้มเหง้าคงยาวประมาณ 2 ฟุต ความกว้างน่าจะมากกว่า 1 ฟุต อะไรจะใหญ่ปานนั้น น้ำตกแห่งที่สองในวันนี้ที่เราแวะคือ"น้ำตกโตนเพชร" อยู่ห่างจากทางหลวงประมาณ 2-3 ก.ม. ทางเข้าต้องผ่านสวนผลไม้ที่ชาวสวนเค้าปลูกผลไม้หลายๆ ชนิดรวมกัน เราจอดรถกันที่ข้างบ้านชาวสวน และต้องเดินอีก 1 ก.ม. เป็นเส้นทางเล็กๆเดินผ่านสวนของชาวบ้าน ระหว่างทางได้ยินเสียงน้ำจากลำธารไหลเสียงดังตลอดเวลา เราเดินกันประมาณ 300 เมตร เส้นเดินทางเริ่มรก และมืดครึ้มมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเราเปลี่ยนมาเดินกันริมน้ำ ผมเลยได้ดูเฟินไปด้วย ตามโขดหิน มีพวก กระแตไต่ไม้, กระแตไต่ไม้ใบเล็ก ขึ้นอยู่มากมายตามต้นไม้มีพวก เฟินหางนกหว้า เกาะอยู่ กอใหญ่ๆ ทั้งนั้น ผมเดินไปตามโขดหินที่มีตะไคร่น้ำ และมอสเกาะที่เหล่านี้มีพวก เฟิน Bolbitis oppendiculata (willd.) tc.imats เฟิน Pteris cretica cv. Parkeri เกาะอยู่ให้เห็นมากมาย |
|
|
|
|
แต่ก็มีบางต้นขึ้นอยู่กับพื้นดิน หรือตามซอกหลืบของหิน เดินวนเวียนกันสักพักเราก็ชวนกันกลับ เพราะเส้นทางที่รก และมืดครึ้ม ทำให้เราหวาดระแวงกับสัตว์เลื้อยคลาน โดยเฉพาะงูกะปะที่มีชุกชมในเขตภาคใต้ และเจ้าทากดูดเลือด นึกเสียดายอยู่เหมือนกันครับ เดินอีกแค่นิดเดียวก็จะถึงน้ำตก แต่บางทีความหวาดระแวงกับสิ่งรอบตัวอาจเป็นผลดีกับเราก็ได้ ผมคิดเอาเองเพื่อไม่ให้รู้สึกเสียดายไปมากกว่านี้ ประมาณเที่ยงอากาศที่ร้อนมากๆ เราก็มาถึงน้ำตกแห่งที่สาม ชื่อ"น้ำตกสวนใหม่" ระยะทางประมาณ 2 ก.ม. เราผ่านสวนผลไม้ของชาวบ้านอีกตามเคย ถึงพอเราลงจากรถก็ได้สัมผัสกับอากาศที่ร้อนอย่างร้ายกาจ แต่ถึงจะร้อน และแดดจัดรอบรอบตัวเราก็มีเฟินให้เห็นกันหลายชนิด เฟินดินก็มี เฟินใบมะขามหางปลา กูดดอย เฟินลูกไก่ดำ เฟินขนคางพญานาค กูดตาด บนต้นไม้ก็มีพวก เฟินลิ้นผีไม ้ ส่วนที่โขดหินอันร้อนระอุมี เฟินนาคราชใบหยาบ ขึ้นให้เห็นอยู่กอนึง ...เราสอบทางไปน้ำตกกับเจ้าหน้าที่แล้วก็รีบมุ่งหน้าไปทันที เพราะอากาศที่ร้อนแบบนี้ เราอยากได้รับความเย็นฉ่ำ ชื่นใจจากน้ำตกโดยเร็วที่สุด ระหว่างทางเดินไปน้ำตกเราผ่านเฟินมากมายแต่ก็เป็นชนิดเดียวกับที่กล่าวในตอนแรก เราเดินฝ่าความร้อนไปได้สักครู่ก็ถึงตัวน้ำตกสวนใหม่ เป็นน้ำตกที่สูงประมาณ 30 เมตร มีน้ำไหลไม่มากนัก แต่ก็ยังพอเห็นความงาม และได้ไอเย็นจากละอองของน้ำตกอยู่บ้าง บริเวณน้ำตกมีพวก เฟินกนกนาร ีขึ้นอยู่มากมาย ที่อยู่ในร่มมีสีเขียวเหลือบน้ำเงิน ส่วนที่เจอแสงแดดเต็มๆ ก็เหี่ยวแห้งไปตามสภาพ ที่ต้นไม้ใกล้ๆ น้ำตกมีพวก เฟินหางนกหว้า ไม้เกาะอยู่ แต่ที่ผมสะดุดตา และไม่คิดว่าจะได้พบคือ เฟินหางนกยูง ครับ ผมพบมันเกาะที่ต้นไม้อยู่ 2 ต้น ตามปกติเฟินชนิดนี้ถ้าอยู่ในที่ร่มครึ้มจะมีใบเขียวเป็นมัน แต่ที่ผมพบสีค่อนข้างซีด และเหี่ยวเฉาเนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด ถ้าฝนโปรยปรายลงมาบ้างก็น่าจะกลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ผมนั่งพัก และลูบตัวด้วยน้ำเย็นๆ จากน้ำตกเรียกความสดชื่นให้กับร่างกาย |
|
|
พวกเราทั้ง 6 ชีวิตออกจากน้ำตกก็มุ่งหน้าลงใต้ต่อไปทันที บ่ายคล้อยมากแล้วเราผ่าน อุทยานแห่งชาติแม่น้ำกระบุรี ที่ประกาศตั้งขึ้นมาใหม่แต่เราไม่แวะเพราะเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล เราหวังว่าจะได้แวะน้ำตกอีกซักแห่งก่อนหาที่พักสำหรับคืนนี้ ไม่ผิดหวังครับ ในที่สุดเราก็ผ่าน"น้ำตกตำหนัง" ของ อุทยานแห่งชาติศรีพังงา แน่นอนครับ เราต้องเข้าไปชมความงามกัน ครั้งที่แล้วผมมาได้แค่ที่จอดรถเพราะว่าเย็นย่ำเกินไป ครั้งนี้ต้องไม่พลาด .....ระยะทางไม่กี่กิโลเมตร เราก็ถึงที่ทำการฯ จากที่ทำการมีเส้นทางรถที่เข้าไปได้อีกหน่อย ในระหว่างทางที่รถผ่านเข้าไป ผมพบกับ เฟินกนกนารี (Selaginella amblyphylla) ซึ่งขนาดใหญ่มาก มากกว่าที่เราเห็นทั่วไป 3 เท่า และอีกชนิดคือ Selaginella biformis นี่ก็ใบใหญ่มาก ยังมี เฟินกีบแรด และเฟินลูกไก่ดำ ให้เห็นตลอดทางที่รถผ่าน หลังจากจอดรถความเย็นชื้นจากป่ารอบๆ ตัวทำให้ผมรู้สึกสดชื่นจริงๆ เดินไปที่ลำธารที่ไหลมาจากน้ำตกตำหนังเฟินที่พบอยู่มากมายก่ายกองก็คือ เฟินกนกนารี (Selaginella amblyphylla) Selaginella biformis |
|
|
|
|
เฟินกีบแรด เฟินลูกไก่ดำ กูดดอย มีให้เห็นได้ทุกขนาดตั้งแต่ขนาดสูง 1 นิ้ว จนถึงเกือบๆ 2 เมตร ในระหว่างทางที่เดินไปน้ำตกที่ต้นไม้ต้นหนึ่งผมพบ เฟินเชือกผูกรองเท้า ค่อนข้างเหี่ยวเฉา ขึ้นอยู่ที่ต้นไม้ แต่ต้นที่ขึ้นอยู่ตามก้อนหินที่เปียกชื้นนั้นยังเขียวสดดีอยู่ ....ข้างทางเดินที่เป็นหน้าผาดินเล็กๆ ผมพบ เฟินคล้ายหางนาคบกแต่เล็กกว่ากันหลายเท่า ขึ้นอยู่เป็นกลุ่มมากมาย อีกด้านหนึ่งที่เป็นลำธารก็มีพวก Shaemstephmos polrcar ต้นใหญ่ ขึ้นอยู่ใกล้กับ เฟินหัสดำ ที่ฝั่งลำธารอีกด้านก็มีพวก เฟินอ้ายหัวเป็ด ต้นไม่ใหญ่นักขึ้นอยู่หลายต้น เฟินกีบแรด เฟินลูกไก่ดำ มีให้เห็นได้ตลอดทางจนถึงตัวน้ำตก "น้ำตกตำหนัง" มีน้ำมากมายให้เล่นอย่างชุ่มฉ่ำใจ มีแอ่งน้ำหน้าน้ำตกที่ให้ว่ายเล่นกันอย่าง |
|
สนุก...หลังจากเจอความร้อนกันมาทั้งวันทุกคนดูจะมีความสุขจากความเย็นของสายน้ำทั้งคน ทั้งหมา.....ก่อนที่ผมจะสระสนานเหมือนกับคนอื่นเค้าผมก็ถือโอกาสเดินดูบริเวณโขดหินริมลำธาร แล้วผมก็พบ เฟินหางนกกะลิง ขึ้นอยู่ก้อนหินริมน้ำที่ชื้นแฉะมีทั้งกอเล็ก-ใหญ่หลายกอทีเดียว ....หลังจากตะวันคล้อยต่ำไปมากผมก็ได้เวลาล้างคราบเหงื่อไคลเสียที..... จากน้ำตกตำหนัง เรามุ่งหน้าไปที่ อ.ตะกั่วป่าหวังว่าจะหาที่พักให้ได้ก่อนค่ำ แต่แล้วจน 2 ทุ่มกว่าเราก็ยังไม่ได้ที่พัก ในที่สุดเราก็ได้ที่พักที่หาดบางสัก เป็นที่พักที่สร้างความอึดอัดใจให้กับพวกเราทุกคน ทั้งสภาพห้องพัก และบรรยากาศรอบตัวที่จะทำให้พวกเราหลับไม่ลง แต่ต้องทนเพราะมันดึกมากแล้ว ก่อนนอนพวกตกลงกันว่าจะตื่นกันตั้งแต่ตีห้า แล้วออกเดินทางให้พ้นจาก |
|
ที่นี่ทันที ...คืนนี้เรานอนฟังเสียงรำพัน ร้องไห้กระซิกๆ จากข้างห้องจนหลับกันไปเอง (สามี-ภรรยา เค้างอนกันน่ะ) ........ |
|
|
|
|
|
|
|