โอ่ โอ ปักษ์ใต้บ้านเรามีน้ำมีเขา ทะเลกว้างไกล เนื้อร้องของเพลงมีแค่นี้หล่ะครับ แต่สิ่งที่ผมคิดไปมากกว่าเนื้อเพลงคือ ที่นั่นมีเฟิน และก็มีมากๆ ด้วย ทั้งที่เราพบเห็นได้ง่าย และที่อยู่ในป่าที่เร้นลึกที่น้อยคนนักที่จะได้เห็นอีกมากมาย.....เข้าฤดูร้อนปีที่ผ่านมาผมให้สัญญากับครอบครัวไว้ว่าจะพากันไปรับไอชื้นจากป่าทางใต้ หลังจากที่เราเคยไปเที่ยวหลายปีก่อนยังประทับใจไม่รู้ลืม
แต่แล้วสัญญาที่ผมให้ไว้ก็สั่นคลอนเล็กน้อย เพราะการโหมงานหนัก ผมเลยโดนน็อคเอาท์โดยงานเข้าเต็มๆ แต่สัญญาต้องเป็นสัญญา เดี๋ยวจะเสียความตั้งใจกันหมดหลังจากลากสังขารทำงานใหญ่จนเสร็จ ผมก็พาร่างกายที่ยังไม่ฟื้นตัวล่องใต้ทันทีกะว่าไปพักฟื้นร่างกายที่ป่าทางใต้
ถ้าไม่ไหวก็หยุดพักยาวๆ ที่ไหนสักแห่ง ผมหวังไว้อย่างเลือกเกินว่าผมจะได้พบกับ สวนยางพารา สวนผลไม้ ป่าไม้ ที่เขียวชอุ่ม น้ำตกลำธารที่มีน้ำไหลเย็นฉ่ำ เหมือนกับที่เคยได้สัมผัสมา ที่สำคัญผมอยากพบเจอเฟินแปลกๆ เพื่อที่มาเล่าให้เพื่อนคนรักเฟินได้ฟังกันผมไม่ได้คิดที่จะอาจเอื้อมตั้งตนเป็นผู้รู้ในเรื่องเฟิน เพราะความรู้ผมน้อยกว่าหางอึ่ง เฟินบางต้นผมอาจบอกชื่อที่ผิดๆ ก็ได้ ถ้าท่านผู้รู้จะดูแคลนผมก็ไม่ว่า แล้วสิ่งที่ผมเขียนขึ้นเพียงเพราะอยากจะเล่าในสิ่งที่ผมได้พบเห็นมาเท่านั้น และก็ไม่ได้หวังให้ข้อเขียนนี้เป็นวรรณกรรม หรือเรื่องสั้นอะไรกับใครเค้า มันเป็นแค่บันทึกที่บอกเล่า และเก็บไว้ในความทรงจำก็เท่านั้น..... ในการนี้เราไปกัน 6 ชีวิต คน 3 หมา 3 มี ภรรยาผม เจ้าตั้มซึ่งเที่ยวป่ากับพวกเรามาตั้งแต่เด็กจนเดี๋ยวนี้โตเป็นหนุ่มไปแล้ว มะเหมียวลูกสาวตัวโปรดของแฟนผม เจ้าตัวนี้ไปไหนไปได้ทุกที่รู้อยู่รู้กิน เคยโดนทากดูดเลือดมาแล้ว เจ้าไมโลนักค้นหาไฮเปอร์เห็นอะไรเคลื่อนไหวไม่ได้ต้องวิ่งเข้าใส่ เจ้ามอมแมม เด็กที่สุดเจ้าตัวนี้ในชีวิตนี้เค้าขอเล่นให้สนุกอย่างเดียว อะไรก็ได้ที่เป็นการเล่น..ชอบทุกอย่าง เที่ยวกันหนนี้คงไม่ได้นอนกลางดิน กินกลางทรายอย่างที่เคย และคงไม่ได้ลุยกันอย่างเต็มที่นัก เพราะติดภาระเจ้า 3 ตัว คงจะเข้าป่าแบบลึกๆ ไม่ได้เหมือนแต่ก่อน แต่อย่างน้อยผมก็ปลอบใจตัวเองว่าขอให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติก็พอแล้วครับ
วันแรกและวันที่สอง , วันที่สาม ,วันที่สี่ , วันที่ห้า ,วันที่หก